วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แค่ไม่ล้างแอร์ก็เสี่ยงเป็น โรคปอดอักเสบ




แอร์ที่ใช้กันเพื่อคลายร้อน เมื่อไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอักเสบโดยไม่รู้ตัว
ทราบหรือไม่ ? แอร์ที่ใช้กันเพื่อคลายร้อน ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน โรงแรม หรือแม้แต่ในห้างสรรพสินค้านั้น เมื่อไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน ๆ จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอักเสบโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทางกรมอนามัยแนะควรล้างแอร์เป็นประจำ เพราะหากได้รับเชื้อสะสมเป็นเวลานานอาจเสี่ยงเกิดโรค
โรคปอดอักเสบ” (Pneumonia) หรือที่นิยมเรียกกันว่า ปอดบวม หมายถึง การอักเสบของเนื้อปอด มีหนองขัง บวม ส่งผลให้ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ทำให้การหายใจสะดุด เกิดอาการหายใจหอบ เหนื่อย ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงนับว่าเป็นโรคร้ายเฉียบพลันชนิดหนึ่ง
ทีมวิชาการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบบนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ว่า โรคนี้สามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก คือ ปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ และปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่โดยทั่วไปมักพบปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ ทั้งจากไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งสาเหตุจะแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุ และสภาพแวดล้อม
แล้วการที่ไม่ล้างทำความสะอาดแอร์ ปล่อยให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรคแล้วนำไปสู่โรคนั้นเกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าวอย่างไรดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า “เพราะในแอร์มีความชื้นทั้งจากตัวแอร์และท่อของแอร์ ที่อาจก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสหรือเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียลิจิโอเนลลานิวโมฟิวลา ซึ่งหากหายใจเอาฝอยละอองน้ำที่มีเชื้อนี้ปนเปื้อนเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
โดยโรคปอดอักเสบจะมีลักษณะอาการ 2 แบบคือ แบบปอดอักเสบรุนแรง มีไข้สูง ไอ หนาวสั่น เรียกว่าโรคลิเจียนแนร์ และแบบที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่ เรียกไข้ปอน ตีแอกหรือปอนเตียก โดยผู้ป่วยโรคปอดอักเสบมักมีอาการแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อายุของผู้ป่วย และความรุนแรงของโรค
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนนำมาก่อน เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย ในบางรายอาจมีอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย ร้องกวนและงอแง ผู้ป่วยบางรายจะมีหนาวสั่นได้

ดังนั้นการป้องกันโรค ทางหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การล้างทำความสะอาดแอร์เป็นประจำ โดยดูตามความเหมาะสมจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน ทั้งนี้กรมอนามัยแนะ สำหรับแอร์แบบระบบรวมควรเปิดน้ำทิ้งจากหอหล่อเย็นให้แห้งเมื่อไม่ได้ใช้ทำความสะอาดขัดถูคราบไคลตะกอน เติมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อฆ่าเชื้อรา และทำความสะอาดหอหล่อเย็นอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน ไม่ให้มีตะไคร่เกาะ
ส่วนแอร์ในห้องพัก ต้องทำความสะอาดถาดรองน้ำที่หยดจากท่อคอยส์เย็นทุก1-2 สัปดาห์ ไม่ให้มีตะไคร่เกาะหรือใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคน ตามมาตรฐานประกาศกรมอนามัย เรื่อง ข้อปฏิบัติการควบคุม เชื้อลิจิโอเนลลาในหอผึ่งของอาคารในประเทศไทย และสำหรับแอร์ที่ใช้ตามบ้านเรือน
และเมื่อเปิดแอร์ควรสังเกตว่าอากาศที่ออกมาจากแอร์มีกลิ่นเหม็น หรือมีกลิ่นอับหรือไม่ หากมีกลิ่นในเบื้องต้น ควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศที่อยู่ในแอร์ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หากล้างทำความสะอาดแล้วกลิ่นไม่หาย ควรเรียกช่างเพื่อทำความสะอาดแบบเต็มระบบ
สุดท้ายนี้โปรดสังเกต!! หากมีอาการไข้ ไอ หอบ ควรรีบพามาพบแพทย์โดยเร็ว เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคปอดอักเสบเพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ที่มา : ทีมเดลินิวส์ออนไลน์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น